ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Python Programming/Tuples"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แถว 1: แถว 1:
 
Tuple เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ทำหน้าที่คล้ายกับอะเรย์ขนาดคงที่ แต่มันมีสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งคือเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสมาชิกของ tuple หลังจากสร้างมันเสร็จแล้วได้ (ภาษาฝรั่งเรียกโครงสร้างข้อมูลประเภทนี้ว่า immutable data structure)
 
Tuple เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ทำหน้าที่คล้ายกับอะเรย์ขนาดคงที่ แต่มันมีสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งคือเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสมาชิกของ tuple หลังจากสร้างมันเสร็จแล้วได้ (ภาษาฝรั่งเรียกโครงสร้างข้อมูลประเภทนี้ว่า immutable data structure)
  
 +
เราสามารถสร้าง tuple ได้โดยการนำค่าหลายๆ ค่ามาเรียงต่อกัน แล้วคั่นค่าที่ติดกันด้วยเครื่องหมายคอมมา (,)
 +
<pre title="interpreter">
 +
>>> t = 42, "Misaka Mikoto", "tsunderailgun", 4649.398
 +
>>> print t
 +
(42, 'Misaka Mikoto', 'tsunderailgun', 4649.3980000000001)
 +
</pre>
 +
 +
เราสามารถเรียกสมาชิกแต่ละตัวของ tuple มาใช้ได้เหมือนกับการเรียกดูสมาชิกของอะเรย์ในภาษา C
 +
<pre title="interpreter">
 +
>>> t[0]
 +
42
 +
>>> t[1]
 +
'Misaka Mikoto'
 +
>>> t[2]
 +
'tsunderailgun'
 +
>>> t[3]
 +
4649.3980000000001
 +
</pre>
 +
 +
นอกจากนี้ในภาษาไพทอน เลขที่เราใช้เป็นดรรชนีบ่งตำแหน่งของสมาชิกใน tuple จะเป็นเลขลบก็ได้ โดยที่ <tt>t[-k]</tt> จะหมายถึงสมาชิกที่เริ่มนับจากด้านหลังของ t ไปเป็นตัวที่ k
 +
<pre title="interpreter">
 +
>>> t[-1]
 +
4649.3980000000001
 +
>>> t[-2]
 +
'tsunderailgun'
 +
>>> t[-3]
 +
'Misaka Mikoto'
 +
>>> t[-4]
 +
42
 +
</pre>
 
{{Python Programming/Navigation|If Statements|Lists}}
 
{{Python Programming/Navigation|If Statements|Lists}}

รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:11, 17 ตุลาคม 2551

Tuple เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ทำหน้าที่คล้ายกับอะเรย์ขนาดคงที่ แต่มันมีสมบัติที่สำคัญประการหนึ่งคือเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสมาชิกของ tuple หลังจากสร้างมันเสร็จแล้วได้ (ภาษาฝรั่งเรียกโครงสร้างข้อมูลประเภทนี้ว่า immutable data structure)

เราสามารถสร้าง tuple ได้โดยการนำค่าหลายๆ ค่ามาเรียงต่อกัน แล้วคั่นค่าที่ติดกันด้วยเครื่องหมายคอมมา (,)

>>> t = 42, "Misaka Mikoto", "tsunderailgun", 4649.398
>>> print t
(42, 'Misaka Mikoto', 'tsunderailgun', 4649.3980000000001)

เราสามารถเรียกสมาชิกแต่ละตัวของ tuple มาใช้ได้เหมือนกับการเรียกดูสมาชิกของอะเรย์ในภาษา C

>>> t[0]
42
>>> t[1]
'Misaka Mikoto'
>>> t[2]
'tsunderailgun'
>>> t[3]
4649.3980000000001

นอกจากนี้ในภาษาไพทอน เลขที่เราใช้เป็นดรรชนีบ่งตำแหน่งของสมาชิกใน tuple จะเป็นเลขลบก็ได้ โดยที่ t[-k] จะหมายถึงสมาชิกที่เริ่มนับจากด้านหลังของ t ไปเป็นตัวที่ k

>>> t[-1]
4649.3980000000001
>>> t[-2]
'tsunderailgun'
>>> t[-3]
'Misaka Mikoto'
>>> t[-4]
42
หน้าก่อน: If Statements สารบัญ หน้าต่อไป: Lists