ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Python Programming/If Statements"
ไปยังการนำทาง
ไปยังการค้นหา
Cardcaptor (คุย | มีส่วนร่วม) |
Chaiporn (คุย | มีส่วนร่วม) |
||
แถว 30: | แถว 30: | ||
</pre> | </pre> | ||
ยกตัวอย่างเช่น (ตัวอย่างนี้ลอกมาจาก [http://www.python.org/doc/2.5.2/tut/node6.html#SECTION006100000000000000000 Python Tutorial]) | ยกตัวอย่างเช่น (ตัวอย่างนี้ลอกมาจาก [http://www.python.org/doc/2.5.2/tut/node6.html#SECTION006100000000000000000 Python Tutorial]) | ||
− | < | + | <syntaxhighlight lang="python"> |
− | + | x = int(raw_input("Please enter an integer: ")) | |
− | + | if x < 0: | |
− | + | x = 0 | |
− | + | print 'Negative changed to zero' | |
− | + | elif x == 0: | |
− | + | print 'Zero' | |
− | + | elif x == 1: | |
− | + | print 'Single' | |
− | + | else: | |
− | + | print 'More' | |
− | + | ||
− | </ | + | </syntaxhighlight> |
โดยที่ฟังก์ชัน | โดยที่ฟังก์ชัน | ||
* <tt>raw_input(s)</tt> เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ s ออกทางหน้าจอแล้วอ่านค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าประเภทสตริง | * <tt>raw_input(s)</tt> เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ s ออกทางหน้าจอแล้วอ่านค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าประเภทสตริง | ||
แถว 48: | แถว 48: | ||
เราสามารถละ <tt>elif</tt> และ <tt>else</tt> ได้เช่นเดียวกับการละ <tt>else</tt> หรือ <tt>else if</tt> ในภาษา C และ Java | เราสามารถละ <tt>elif</tt> และ <tt>else</tt> ได้เช่นเดียวกับการละ <tt>else</tt> หรือ <tt>else if</tt> ในภาษา C และ Java | ||
− | < | + | <syntaxhighlight lang="python"> |
− | + | x = int(raw_input("Inpux x: ")) | |
− | + | y = int(raw_input("Input y: ")) | |
− | + | if x < y: | |
− | + | print "x is less than y" | |
− | + | else: | |
− | + | print "x is not less than y" | |
− | + | ||
− | + | if x == y: | |
− | + | print "x is also equal to y." | |
− | + | ||
− | </ | + | </syntaxhighlight> |
+ | |||
{{Python Programming/Navigation|Boolean Expressions|Tuples}} | {{Python Programming/Navigation|Boolean Expressions|Tuples}} |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 04:01, 4 ตุลาคม 2558
คำสั่ง if ในภาษาไพทอนมีรูปแบบดังต่อไปนี้
if <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ a>>: คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ aเป็นจริง #1 คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ a เป็นจริง #2 . . . elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b>>: คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #1 คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #2 . . . elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c>>: คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #1 คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #2 . . . {{อาจมี elif เพิ่มมากกว่านี้ก็ได้}} else: คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #1 คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #2 . . .
ยกตัวอย่างเช่น (ตัวอย่างนี้ลอกมาจาก Python Tutorial)
x = int(raw_input("Please enter an integer: "))
if x < 0:
x = 0
print 'Negative changed to zero'
elif x == 0:
print 'Zero'
elif x == 1:
print 'Single'
else:
print 'More'
โดยที่ฟังก์ชัน
- raw_input(s) เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ s ออกทางหน้าจอแล้วอ่านค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าประเภทสตริง
- ฟังก์ัชัน int ทำหน้าที่เปลี่ยนค่าประเภทอื่นๆ ให้เป็นค่าประเภทจำนวนเต็ม
เราสามารถละ elif และ else ได้เช่นเดียวกับการละ else หรือ else if ในภาษา C และ Java
x = int(raw_input("Inpux x: "))
y = int(raw_input("Input y: "))
if x < y:
print "x is less than y"
else:
print "x is not less than y"
if x == y:
print "x is also equal to y."
หน้าก่อน: Boolean Expressions | สารบัญ | หน้าต่อไป: Tuples |