ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Python Programming/If Statements"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
 
(ไม่แสดง 8 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 2 คน)
แถว 9: แถว 9:
 
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b>>:
 
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b>>:
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #1
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #1
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #2             .
+
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #2
 
             .
 
             .
 
             .
 
             .
แถว 15: แถว 15:
 
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c>>:
 
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c>>:
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #1
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #1
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #2             .
+
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #2
 
             .
 
             .
 
             .
 
             .
แถว 24: แถว 24:
 
else:
 
else:
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #1
 
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #1
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #2             .
+
     คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #2
 
             .
 
             .
 
             .
 
             .
 
             .
 
             .
 
</pre>
 
</pre>
 +
ยกตัวอย่างเช่น (ตัวอย่างนี้ลอกมาจาก [http://www.python.org/doc/2.5.2/tut/node6.html#SECTION006100000000000000000 Python Tutorial])
 +
<syntaxhighlight lang="python">
 +
x = int(raw_input("Please enter an integer: "))
 +
if x < 0:
 +
    x = 0
 +
    print 'Negative changed to zero'
 +
elif x == 0:
 +
    print 'Zero'
 +
elif x == 1:
 +
    print 'Single'
 +
else:
 +
    print 'More'
 +
 +
</syntaxhighlight>
 +
โดยที่ฟังก์ชัน
 +
* <tt>raw_input(s)</tt> เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ s ออกทางหน้าจอแล้วอ่านค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าประเภทสตริง
 +
* ฟังก์ัชัน <tt>int</tt> ทำหน้าที่เปลี่ยนค่าประเภทอื่นๆ ให้เป็นค่าประเภทจำนวนเต็ม
 +
 +
เราสามารถละ <tt>elif</tt> และ <tt>else</tt> ได้เช่นเดียวกับการละ <tt>else</tt> หรือ <tt>else if</tt> ในภาษา C และ Java
 +
<syntaxhighlight lang="python">
 +
x = int(raw_input("Inpux x: "))
 +
y = int(raw_input("Input y: "))
 +
if x < y:
 +
    print "x is less than y"
 +
else:
 +
    print "x is not less than y"
 +
 +
if x == y:
 +
    print "x is also equal to y."
 +
 +
</syntaxhighlight>
 +
 
{{Python Programming/Navigation|Boolean Expressions|Tuples}}
 
{{Python Programming/Navigation|Boolean Expressions|Tuples}}

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 04:01, 4 ตุลาคม 2558

คำสั่ง if ในภาษาไพทอนมีรูปแบบดังต่อไปนี้

if <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ a>>:
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ aเป็นจริง #1
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ a เป็นจริง #2
             .
             .
             .
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b>>:
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #1
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ b เป็นจริง #2
             .
             .
             .
elif <<นิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c>>:
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #1
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ c เป็นจริง #2
             .
             .
             .

{{อาจมี elif เพิ่มมากกว่านี้ก็ได้}}

else:
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #1
    คำสั่งที่จะทำเมื่อนิพจน์ทางตรรกศาสตร์ทั้งหมดไม่เป็นจริง #2
             .
             .
             .

ยกตัวอย่างเช่น (ตัวอย่างนี้ลอกมาจาก Python Tutorial)

x = int(raw_input("Please enter an integer: "))
if x < 0:
     x = 0
     print 'Negative changed to zero'
elif x == 0:
     print 'Zero'
elif x == 1:
     print 'Single'
else:
     print 'More'

โดยที่ฟังก์ชัน

  • raw_input(s) เป็นฟังก์ชันที่พิมพ์ s ออกทางหน้าจอแล้วอ่านค่าที่ผู้ใช้ป้อนเข้ามา ซึ่งเก็บไว้เป็นค่าประเภทสตริง
  • ฟังก์ัชัน int ทำหน้าที่เปลี่ยนค่าประเภทอื่นๆ ให้เป็นค่าประเภทจำนวนเต็ม

เราสามารถละ elif และ else ได้เช่นเดียวกับการละ else หรือ else if ในภาษา C และ Java

x = int(raw_input("Inpux x: "))
y = int(raw_input("Input y: "))
if x < y:
    print "x is less than y"
else:
    print "x is not less than y"

if x == y:
    print "x is also equal to y."
หน้าก่อน: Boolean Expressions สารบัญ หน้าต่อไป: Tuples