ผลต่างระหว่างรุ่นของ "418531 ภาคต้น 2552/โจทยปัญหาการค้นหาด้วยพละกำลังเยี่ยงควายถึก/เฉลยข้อ 1"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
 
(ไม่แสดง 8 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้ 2 คน)
แถว 4: แถว 4:
  
 
แนวคิด: เนื่องจากข้อนี้ต้องการตรวจสอบซับเซตทุก ๆ ซับเซตของ เซต <math>A \,</math> ฉะนั้นวัตถุที่เราสนใจก็คือ ซับเซตนั่นเอง ซึ่งในห้องเรียนได้เรียนถึงวิธีการหยิบซับเซตขึ้นมาพิจารณาทีละซับเซตกันไปแล้ว เราก็จะใช้วิธีนั้นกัน นอกจากนี้โจทย์ข้อนี้ต้องการตรวจสอบว่าซับเซตที่เรากำลังพิจารณาอยู่นั้นมีค่าผลบวกเท่ากับจำนวนเต็ม <math>S \,</math> หรือไม่ แสดงว่าเงื่อนไขก็คือ ผลบวกของซับเซตที่กำลังพิจารณาเท่ากับจำนวนเต็ม <math>S \,</math> หรือไม่นั่นเอง
 
แนวคิด: เนื่องจากข้อนี้ต้องการตรวจสอบซับเซตทุก ๆ ซับเซตของ เซต <math>A \,</math> ฉะนั้นวัตถุที่เราสนใจก็คือ ซับเซตนั่นเอง ซึ่งในห้องเรียนได้เรียนถึงวิธีการหยิบซับเซตขึ้นมาพิจารณาทีละซับเซตกันไปแล้ว เราก็จะใช้วิธีนั้นกัน นอกจากนี้โจทย์ข้อนี้ต้องการตรวจสอบว่าซับเซตที่เรากำลังพิจารณาอยู่นั้นมีค่าผลบวกเท่ากับจำนวนเต็ม <math>S \,</math> หรือไม่ แสดงว่าเงื่อนไขก็คือ ผลบวกของซับเซตที่กำลังพิจารณาเท่ากับจำนวนเต็ม <math>S \,</math> หรือไม่นั่นเอง
 +
 +
ให้อะเรย์ A เก็บค่าจำนวนเต็ม <math> n /, </math> ตัว อะเรย์ G แต่ละช่องเก็บค่า 1 หรือ 2 ถ้า G[i] เก็บค่า 1 หมายถึง สมาชิกตัวที่ i ในอะเรย์ A เป็นสมาชิกของซับเซต แต่ถ้าเก็บค่า 2 คือไม่เป็นสมาชิกของซับเซต
  
 
จากแนวคิดข้างต้นสามารถเขียนเป็น pseudocode ได้ดังนี้
 
จากแนวคิดข้างต้นสามารถเขียนเป็น pseudocode ได้ดังนี้
 +
<geshi lang="c">
 +
SUM(A,G,n)
 +
 +
    sum <-- 0
 +
    for i=0 to n-1
 +
    {
 +
        if G[i] = 1
 +
        {
 +
              sum = sum + A[i]
 +
        }
 +
    }   
 +
    return(sum)
 +
}
 +
</geshi>
 +
 +
<geshi lang="c">
 +
GENERATE(k)
 +
{
 +
    if k=0
 +
    {   
 +
        v<--SUM(A,G,n)
 +
        if (v=S)
 +
        {
 +
              return 1
 +
        }else{
 +
              return 0
 +
        }
 +
      }else{
 +
        for G[k-1]= 1 to G[k-1]=2
 +
        {
 +
              GENERATE(k-1)
 +
        }
 +
      }
 +
}
 +
</geshi>
  
 
เนื่องจากจำนวนซับเซตที่พิจารณาทั้งหมดมี <math>2^n \,</math> ซับเซต และแต่ละซับเซตต้องทำการตรวจสอบว่าผลบวกของมันเท่ากับ <math>S \, </math> หรือไม่ ซึ่งใช้เวลาอย่างมาก <math>O(n) \, </math> ดังนั้น เวลาการทำงานทั้งหมดของอัลกอริทึมคือ <math>O(n2^n) \,</math> นั่นเอง
 
เนื่องจากจำนวนซับเซตที่พิจารณาทั้งหมดมี <math>2^n \,</math> ซับเซต และแต่ละซับเซตต้องทำการตรวจสอบว่าผลบวกของมันเท่ากับ <math>S \, </math> หรือไม่ ซึ่งใช้เวลาอย่างมาก <math>O(n) \, </math> ดังนั้น เวลาการทำงานทั้งหมดของอัลกอริทึมคือ <math>O(n2^n) \,</math> นั่นเอง

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:18, 4 กันยายน 2552

อินพุต: เซตของจำนวนเต็ม ที่มีสมาชิก ตัว และจำนวนเต็ม

เอาพุต: คำตอบว่า "ใช่" หรือ "ไม่ใช่"

แนวคิด: เนื่องจากข้อนี้ต้องการตรวจสอบซับเซตทุก ๆ ซับเซตของ เซต ฉะนั้นวัตถุที่เราสนใจก็คือ ซับเซตนั่นเอง ซึ่งในห้องเรียนได้เรียนถึงวิธีการหยิบซับเซตขึ้นมาพิจารณาทีละซับเซตกันไปแล้ว เราก็จะใช้วิธีนั้นกัน นอกจากนี้โจทย์ข้อนี้ต้องการตรวจสอบว่าซับเซตที่เรากำลังพิจารณาอยู่นั้นมีค่าผลบวกเท่ากับจำนวนเต็ม หรือไม่ แสดงว่าเงื่อนไขก็คือ ผลบวกของซับเซตที่กำลังพิจารณาเท่ากับจำนวนเต็ม หรือไม่นั่นเอง

ให้อะเรย์ A เก็บค่าจำนวนเต็ม ตัว อะเรย์ G แต่ละช่องเก็บค่า 1 หรือ 2 ถ้า G[i] เก็บค่า 1 หมายถึง สมาชิกตัวที่ i ในอะเรย์ A เป็นสมาชิกของซับเซต แต่ถ้าเก็บค่า 2 คือไม่เป็นสมาชิกของซับเซต

จากแนวคิดข้างต้นสามารถเขียนเป็น pseudocode ได้ดังนี้ <geshi lang="c"> SUM(A,G,n) {

   sum <-- 0
   for i=0 to n-1
   {
        if G[i] = 1
        {
              sum = sum + A[i]
        }
   }    
   return(sum)

} </geshi>

<geshi lang="c"> GENERATE(k) {

    if k=0
    {     
        v<--SUM(A,G,n)
        if (v=S)
        {
             return 1
        }else{ 
             return 0
        }
     }else{
        for G[k-1]= 1 to G[k-1]=2
        {
             GENERATE(k-1)
        }
     }

} </geshi>

เนื่องจากจำนวนซับเซตที่พิจารณาทั้งหมดมี ซับเซต และแต่ละซับเซตต้องทำการตรวจสอบว่าผลบวกของมันเท่ากับ หรือไม่ ซึ่งใช้เวลาอย่างมาก ดังนั้น เวลาการทำงานทั้งหมดของอัลกอริทึมคือ นั่นเอง