ผลต่างระหว่างรุ่นของ "Python Programming/Objects"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แถว 146: แถว 146:
  
 
== Method ของสตริง ==
 
== Method ของสตริง ==
{| cellpadding="10" border="1"
+
{| border="1"
 
|-
 
|-
 
| '''ชื่อ'''
 
| '''ชื่อ'''

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:54, 19 ตุลาคม 2551

ไพทอนสนับสนุนการเขียนโปรแกรมเชิงวัตถุ (OOP) ในระัดับหนึ่ง object ค่าทุกค่าในไพทอนล้วนเป็น object ทั้งสิ้น นี่รวมไปถึงค่าที่เป็น primitive type อย่างค่าประเภท int, float, string, และ boolean นอกจากนี้ list, tuple, และ dictionary ก็เป็น object เช่นกัน

การเรียก method ของ object ในภาษาไพทอนจะเหมือนกับการเรียก method ในภาษา Java โดยมีรูปแบบดังนี้

<<object>>.<<ชื่อ method>>(<<parameter 1>>, <<parameter 2>>, ...)

ส่วนที่เหลือของหน้านี้จะกล่าวถือ method ของ object ต่างๆ ที่เราเคยพูดถึงมาแล้ว

Method ของ List

ส่วนนี้ลอกมาจาก Python Tutorial: 5. Data Structures

ชื่อ หน้าที่
append(x)

เพิ่ม x ต่อท่าย list

insert(i, x)

แทรก x ที่ำตำแหน่ง i ใน list

remove(x)

ลบ x ออกจาก list

pop([i])

ลบสมาชิกที่ตำแหน่งที่ i ออกจา่ก list และคืนมันกลับให้ผู้เรียก method ถ้าไม่ให้ค่า i มันจะลบสมาชิกตัวสุดท้ายใน list

index(x)

คืนตำแหน่งแรกใน list ที่ค่าของ list ที่ำตำแหน่งนั้นเท่ากับ x

count(x)

นับจำนวน x ที่ปรากฎใน list

sort()

เรียงลำดับค่าใน list

reverse()

กลับลำดับของค่าใน list จากหน้าไปหลังเป็นหลังไปหน้า

ตัวอย่าง

>>> a = [66.25, 333, 333, 1, 1234.5]
>>> print a.count(333), a.count(66.25), a.count('x')
2 1 0
>>> a.insert(2, -1)
>>> a.append(333)
>>> a
[66.25, 333, -1, 333, 1, 1234.5, 333]
>>> a.index(333)
1
>>> a.remove(333)
>>> a
[66.25, -1, 333, 1, 1234.5, 333]
>>> a.reverse()
>>> a
[333, 1234.5, 1, 333, -1, 66.25]
>>> a.sort()
>>> a
[-1, 1, 66.25, 333, 333, 1234.5]

Method ของ Dictionary

ชื่อ หน้าที่
append(x)

เพิ่ม x ต่อท่าย list

has_key(k) ตรวจสอบว่าใน dictionary มี key k หรือไม่
items() คืน list ของคู่ลำดับ (key, value) ทั้งหมดใน dictionary ออกมา
keys() คืน list ของค่า key ทั้งหมดใน dictionary ออกมา
values() คืน list ของค่า value ทั้งหมดใน dictionary ออกมา
clear() ลบการจับคู่ทั้งหมดออกจาก dictionary
>>> tel = {'guido':4127, 'jack':4098, 'sape':4139}
>>> tel.keys()
['sape', 'jack', 'guido']
>>> tel.values()
[4139, 4098, 4127]
>>> tel.items()
[('sape', 4139), ('jack', 4098), ('guido', 4127)]
>>> tel.has_key('guido')
True
>>> tel.clear()
>>> tel
{}

Method ของสตริง

ชื่อ หน้าที่
capitalize() คืนสตริงเดียวกับ method receiver แต่ตัวอักษรตัวแรกถูกทำให้เป็นตัวพิมพ์ใหญ่
หน้าก่อน: Dictionaries สารบัญ หน้าต่อไป: Classes