ผลต่างระหว่างรุ่นของ "การบัดกรีแผงวงจรไมโครคอนโทรลเลอร์"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แถว 10: แถว 10:
 
* ซ็อกเก็ตไอซี 28 ขา 1 ตัว
 
* ซ็อกเก็ตไอซี 28 ขา 1 ตัว
 
* ไมโครคอนโทรลเลอร์ ATMega168 หรือ ATMega168P
 
* ไมโครคอนโทรลเลอร์ ATMega168 หรือ ATMega168P
* สวิตช์ 1 ตัว
+
* แท็คสวิตช์ 6mm 1 ตัว
 
* จั๊มเปอร์ 2 ขาพร้อมหัวเสียบ 1 ตัว
 
* จั๊มเปอร์ 2 ขาพร้อมหัวเสียบ 1 ตัว
 
* คอนเน็กเตอร์ 2x5 ขา 1 ตัว
 
* คอนเน็กเตอร์ 2x5 ขา 1 ตัว

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:59, 8 ตุลาคม 2552

รายการอุปกรณ์ที่ใช้

  • USB connector 1 ตัว
  • ตัวเก็บประจุ 10 ไมโครฟารัด 1 ตัว
  • ตัวเก็บประจุ 100 นาโนฟารัด 1 ตัว
  • ตัวเก็บประจุ 22 พิโคฟารัด 2 ตัว
  • LED สีแดง 1 ตัว
  • LED สีเขียว 1 ตัว
  • Crystal 16 MHz 1 ตัว
  • ซีเนอร์ไดโอด 3.6V 2 ตัว
  • ซ็อกเก็ตไอซี 28 ขา 1 ตัว
  • ไมโครคอนโทรลเลอร์ ATMega168 หรือ ATMega168P
  • แท็คสวิตช์ 6mm 1 ตัว
  • จั๊มเปอร์ 2 ขาพร้อมหัวเสียบ 1 ตัว
  • คอนเน็กเตอร์ 2x5 ขา 1 ตัว
  • ตัวต้านทาน 68 โอห์ม 1 ตัว
  • ตัวต้านทาน 330 โอห์ม 1 ตัว
  • ตัวต้านทาน 1.5K โอห์ม 1 ตัว
  • ตัวต้านทาน 1M โอห์ม 1 ตัว

ข้อกำหนดเพิ่มเติมสำหรับการบัดกรี

  • บัดกรีคอนเน็กเตอร์ 2x5 ขาลงบน JP2 (ซึ่งต่อกับพอร์ต C) อย่างเดียว ส่วน JP3 ปล่อยทิ้งไว้
  • D3 ใช้ LED สีเขียว
  • D4 ใช้ LED สีแดง

อุปกรณ์ที่มีขั้ว

อุปกรณ์บางอย่างต้องต่อให้ถูกขั้ว ไม่เช่นนั้นอาจทำให้วงจรไม่ทำงานหรือสร้างความเสียหายให้กับวงจรได้ ในบอร์ดทดลองของเรามีอุปกรณ์ที่มีขั้วดังนี้

  • ตัวเก็บประจุขนาด 10 ไมโครฟารัด เป็นตัวเก็บประจุแบบน้ำยา ต้องวางขั้วบวกและลบให้ถูกต้อง
  • ไดโอดทุกชนิด รวมถึงซีเนอร์ไดโอดและไดโอดเปล่งแสง (LED)
  • ไอซี
  • ควรบัดกรีผ่านซ็อกเก็ตเพราะความร้อนสามารถสร้างความเสียหายให้กับไอซีได้ ตัวซ็อกเก็ตจะมีสัญลักษณ์บอกทิศทางของไอซี ซึ่งควรวางให้ถูกทิศตั้งแต่แรก

ปัญหาที่พบบ่อย

  • ลายทองแดงหลุดลอกและขาดออกจากกัน อันเกิดจากการแช่หัวแร้งไว้นานเกินไป และ/หรือการตัดขาอุปกรณ์หลังการบัดกรี รอยขาดเหล่านี้บางครั้งมองเห็นได้ยากมาก ต้องอาศัยโอห์มมิเตอร์ในการตรวจสอบ
  • ต่ออุปกรณ์บางอย่างกลับขั้ว เช่นซีเนอร์ไดโอด
  • วางอุปกรณ์ผิดค่า เช่นตัวต้านทานต่าง ๆ
  • วางซ็อกเก็ตไอซีกลับด้าน แม้จะไม่ใช่ปัญหาใหญ่เนื่องจากไอซีสามารถถอดและใส่ได้ง่าย แต่อาจสร้างความสับสนในภายหลัง
  • ใส่ตะกั่วที่จุดบัดกรีน้อยเกินไป ทำให้ขาอุปกรณ์ไม่เชื่อมติดกับลายทองแดง

วิธีทดสอบวงจรเบื้องต้น

ปฏิบัติตามขั้นตอนทีละขั้นดังนี้

  • ยังไม่ต้องเสียบไมโครคอนโทรลเลอร์ลงบนซ็อกเก็ต ใช้โอห์มมิเตอร์วัดความต้านทานระหว่างจุด VCC และ GND ต้องไม่ชอร์ตกัน
  • หากชอร์ตกันให้ไล่ลายทองแดงของเน็ต VCC และ GND เพื่อหาว่าชอร์ตกันที่จุดใด และกำจัดจุดที่ชอร์ตออก
  • เสียบสายแพเข้ากับบอร์ด แล้วลองต่อไฟ 5V และ GND ให้กับบอร์ด LED สีแดงต้องติดขึ้นมา เป็นการแสดงว่าวงจรได้รับไฟเลี้ยงอย่างถูกต้อง
  • หากไฟไม่ติดให้ไล่วงจรส่วนที่ต่อกับ LED สีแดง ดูว่า LED ต่อถูกขั้วหรือไม่
  • ตัดไฟเลี้ยง เสียบไมโครคอนโทรลเลอร์ แล้วเปิดไฟ หาก LED สีเขียวกระพริบเป็นจังหวะ (ประมาณวินาทีละครั้ง) แสดงว่าไมโครคอนโทรลเลอร์ได้รับไฟเลี้ยงและสัญญาณนาฬิกา และทำงานได้ถูกต้อง
  • หากไม่ทำงานให้ตรวจสอบไฟเลี้ยงที่เข้าสู่ไมโครคอนโทรลเลอร์ (ขา 7 และ 8) รวมถึงวงจรกำเนิดสัญญาณนาฬิกา (ขา 9 และ 10)
  • กดปุ่มรีเซ็ตเพื่อให้ไมโครคอนโทรลเลอร์เข้าสู่โหมดการโปรแกรมเฟิร์มแวร์ ไฟสีเขียวต้องกระพริบเป็นจังหวะถี่ ๆ
  • หาก LED สีเขียวยังกระพริบเป็นจังหวะช้า ๆ แสดงว่าการรีเซ็ตไม่เกิดขึ้น ตรวจสอบการเชื่อมต่อระหว่างสวิตช์รีเซ็ต กราวนด์ และขารีเซ็ตของไอซี (ขา 1)
  • ในโหมดโปรแกรมเฟิร์มแวร์ไมโครคอนโทรลเลอร์จะจำลองตัวเองเป็นอุปกรณ์ USB ความเร็วต่ำ หากใช้คำสั่ง lsusb บนเครื่องคอมพิวเตอร์ต้องเห็นรายการอุปกรณ์ USB ที่มี VID:PID เป็น 16c0:05dc ปรากฏอยู่ ดังตัวอย่าง
$ lsusb
Bus 004 Device 001: ID 0000:0000  
Bus 003 Device 007: ID 16c0:05dc  
Bus 003 Device 001: ID 0000:0000  
Bus 002 Device 001: ID 0000:0000  
Bus 001 Device 001: ID 0000:0000
  • หากไม่ขึ้นให้ไล่วงจรส่วนเชื่อมต่อกับ USB ซึ่งไล่มาตั้งแต่ขา 4 และ 6 ของไอซี ตรวจสอบคู่ตัวต้านทาน 68 โอห์ม คู่ซีเนอร์ไดโอด ตัวต้านทาน 1.5K และ 1M ว่ามีการต่อสลับค่าหรือต่อซีเนอร์ไดโอดกลับขั้วบ้างหรือไม่

บทความที่เกี่ยวข้อง