วิธีการใช้งาน Cafe grader
เนื้อหา
ภาพรวมของ cafe grader
Cafe grader นั้นเป็นระบบรับและตรวจโปรแกรม ผู้ใช้งานของระบบจะแบ่งเป็นสองกลุ่มคือ ผู้ตั้งโจทย์ และ ผู้แก้โจทย์ ผู้ตั้งโจทย์จะทำการสร้างโจทย์ และนำโจทย์เข้าสู่ระบบ
ในขณะที่ผู้แก้โจทย์จะศึกษาโจทย์ เขียนโปรแกรมเพื่อแก้โจทย์ และส่งโปรแกรมดังกล่าวมาเพื่อให้ระบบทำการตรวจสอบ การตรวจสอบนั้นจะทำโดยให้ผู้ตั้งโจทย์กำหนด input
และ output ที่ถูกต้องของโปรแกรม และนำ input/output ดังกล่าวเข้าสู่ระบบ ระบบจะทำการรันโปรแกรมที่รับมาจากผู้แก้โจทย์ โดยใช้ input ที่ถูกกำหนดโดยผู้ตั้งโจทย์ แล้ว
เปรียบเทียบ output จากโปรแกรมที่รับเข้ามากับ output ที่ได้จากผู้ตั้งโจทย์ ถ้าผลลัพธ์ตรงกัน หรือมีเงื่อนไขตามที่ผู้ตั้งโจทย์กำหนด ระบบจะทำการให้คะแนนกับโปรแกรมที่
รับเข้ามา
Cafe grader รองรับการใช้งานโดยผู้ใช้หลายคน และ รองรับโจทย์จำนวนหลายข้อในเวลาเดียวกัน ผู้ตั้งโจทย์และผู้แก้โจทย์สามารถตรวจสอบได้ว่าผลการทำงานของ
โปรแกรมที่รับเข้ามาของผู้แก้โจทย์แต่ละบุคคล ในแต่ละข้อนั้นมีผลเป็นอย่างไร นอกจากนี้ Cafe grader ยังมีรองรับการทำงานช่วยเหลือต่าง ๆ เกี่ยวกับการทำโจทย์ ตัวอย่าง
เช่น ระบบส่งคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับรายละเอียดของโจทย์ ระบบจำกัดเวลาการส่งงาน ระบบจัดกลุ่มโจทย์สำหรับแต่ละกลุ่มของผู้ทำโจทย์ และ
โจทย์
โจทย์เป็นข้อมูลหลักที่ผู้ตั้งโจทย์จะต้องนำมาใส่ใน Cafe grader โจทย์นั้นจะประกอบด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้
- ชื่อย่อของชื่อของโจทย์ ซึ่งต้องไม่ซ้ำกันในโจทย์แต่ละข้อ
- ชื่อเต็มของโจทย์
- ข้อมูลสำหรับการตรวจสอบโปรแกรม ซึ่งอาจจะเป็น รายการของคู่ input/output ที่ควรจะเป็น หรือ โปรแกรมเฉพาะสำหรับตรวจ input/output ก็ได้
- คำอธิบาย
- คะแนนเต็ม
- ข้อกำหนดทางทรัพยากรณ์ คือ เวลา และ หน่วยความจำที่อนุญาติให้โปรแกรมของผู้แก้โจทย์สามารถใช้ได้
ข้อมูลในข้อ 1. - 3. นั้น ผู้ตั้งโจทย์จำเป็นจะต้องจัดเตรียมสำหรับโจทย์แต่ละข้อโดยเฉพาะ ในขณะที่ข้อที่เหลือมีค่าที่กำหนดโดยปริยายจากระบบ ซึ่งผู้ตั้งโจทย์สามารถปรับเปลี่ยนให้ตรงกับโจทย์แต่ละข้อได้
โปรแกรม
โปรแกรมที่ส่งโดยผู้แก้โจทย์นั้น จะอยู่ในรูปแบบ source code ของภาษา C หรือ C++ ในการส่งโปรแกรมแต่ละครั้งนั้น ผู้แก้โจทย์จะต้องทำจัดเตรียมข้อมูลสองส่วนคือ
- ชื่อย่อของโจทย์ที่ต้องการส่ง
- โปรแกรมสำหรับโจทย์ข้อดังกล่าว
สำหรับโจทย์แต่ละข้อนั้น ผู้แก้โจทย์สามารถส่งโปรแกรมได้หลายโปรแกรม โดยที่ระบบจะเก็บรายละเอียดของการส่งแต่ละครั้ง รวมถึงโปรแกรมที่ส่งมาในครั้งนั้น ๆ ด้วย แต่ระบบจะยึดถือจากโปรแกรมที่ส่งมาครั้งล่าสุดเป็นหลัก
การใช้งานสำหรับผู้ดูแลระบบ
ในส่วนนี้จะอธิบายพร้อมแสดงตัวอย่างการใช้งานเบื้องต้นพร้อมทั้งแสดงตัวอย่าง ตัวอย่างในส่วนนี้จะถือว่าผู้ดูแลระบบได้ทำการ log in เข้าสู่ระบบแล้ว โดยรหัสผู้ใช้เริ่มต้นของผู้ดูแลระบบคือ root รหัสผ่านคือ ioionrails
การสร้างผู้ใช้
ผู้ดูแลระบบจะต้องทำการสร้างบัญชีสำหรับผู้ใช้ก่อน โดยใช้เลือกที่รายการเลือก [ users ] แล้วกรอกรายละเอียดของผู้ใช้ลงในส่วน Quick add ดังที่แสดงในตัวอย่าง แล้วจึงกดปุ่ม create