ผลต่างระหว่างรุ่นของ "204111:lab3"

จาก Theory Wiki
ไปยังการนำทาง ไปยังการค้นหา
แถว 42: แถว 42:
 
ให้เขียนฟังก์ชันชื่อ <tt>read_equation</tt> ที่อ่านค่าสัมประสิทธิ์ a, b, c จากผู้ใช้
 
ให้เขียนฟังก์ชันชื่อ <tt>read_equation</tt> ที่อ่านค่าสัมประสิทธิ์ a, b, c จากผู้ใช้
  
=== 4. หารากสมการกำลังสอง (ส่วนโปรแกรมหลัก) ===
+
=== 4. หารากสมการกำลังสอง (คำนวณเทอมย่อย) ===
 +
 
 +
=== 5. หารากสมการกำลังสอง (แสดงพหุนาม) ===
 +
 
 +
=== 6. หารากสมการกำลังสอง (ส่วนโปรแกรมหลัก) ===
  
 
(ในตอนทำให้ปิดโค้ดของ function ย่อยทั้งหมด แต่ให้แสดงแต่หัวที่เป็นบรรทัด def ไว้ แล้วเว้นส่วนโปรแกรมหลักด้านล่างให้เติม)
 
(ในตอนทำให้ปิดโค้ดของ function ย่อยทั้งหมด แต่ให้แสดงแต่หัวที่เป็นบรรทัด def ไว้ แล้วเว้นส่วนโปรแกรมหลักด้านล่างให้เติม)

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:14, 17 มิถุนายน 2553

ปฏิบัติการที่สองของวิชา 20411 ตามแผนร่างหัวข้อวิชา 204111 มีเนื้อหาดังนี้

  • ฟังก์ชัน

ฟังก์ชันพื้นฐาน

1. ยกกำลัง

ให้เติมฟังก์ชัน square ที่รับจำนวนเต็ม x แล้วคืนค่า

(มีการประกาศหัวฟังก์ชัน, เว้นส่วนของฟังก์ชัน, มีโปรแกรมหลัก)

2. พหุนาม

ให้เขียนฟังก์ชัน poly ที่รับอาร์กิวเมนต์ x ที่คำนวณ

(เว้นช่องทั้งฟังก์ชั่น (ไม่มีการประกาศหัว), มีโปรแกรมหลัก)

ฟังก์ชันและโปรแกรมหลัก: สมการกำลังสอง

ถึง TA: ชุดนี้ประกอบด้วยโจทย์หลายข้อ... สามารถขึ้น intro ทุกข้อด้วยข้อความแบบเดียวกันได้

เราต้องการหาคำตอบของรูปแบบหนึ่งของสมการกำลังสอง พิจารณาสมการ เราทราบว่ามีคำตอบสองคำตอบคือ

และ

ในกรณีที่ มีค่ามากกว่า 0

เราจะแบ่งงานพัฒนาโปรแกรมนี้ออกเป็นหลาย ๆ ส่วน

สำหรับข้อนี้เราสนใจส่วน (ถึง TA: ....ให้เติมเอา.... แล้วค่อยขึ้นโจทย์ของแต่ละส่วน)

3. หารากสมการกำลังสอง (อ่านค่า)

(ถึง TA: ในตอนทำให้ปิดส่วนโปรแกรมหลักไว้ โดยใส่ option hide=True เข้าไปในส่วนโปรแกรมหลัก)

ในส่วนนี้เราจะเขียนโปรแกรมเพื่ออ่านสมการจากผู้ใช้

ให้เขียนฟังก์ชันชื่อ read_equation ที่อ่านค่าสัมประสิทธิ์ a, b, c จากผู้ใช้

4. หารากสมการกำลังสอง (คำนวณเทอมย่อย)

5. หารากสมการกำลังสอง (แสดงพหุนาม)

6. หารากสมการกำลังสอง (ส่วนโปรแกรมหลัก)

(ในตอนทำให้ปิดโค้ดของ function ย่อยทั้งหมด แต่ให้แสดงแต่หัวที่เป็นบรรทัด def ไว้ แล้วเว้นส่วนโปรแกรมหลักด้านล่างให้เติม)