|
|
(ไม่แสดง 4 รุ่นระหว่างกลางโดยผู้ใช้คนเดียวกัน) |
แถว 14: |
แถว 14: |
| \end{align} | | \end{align} |
| </math>}} | | </math>}} |
− |
| |
− | {{เริ่มบทพิสูจน์}}
| |
− | To be proved...
| |
− | {{จบบทพิสูจน์}}
| |
| | | |
| ==Graphic Inequality== | | ==Graphic Inequality== |
แถว 56: |
แถว 52: |
| \begin{align} | | \begin{align} |
| a^Ta \cdot b^Tb &\geq |a^Tb|^2 \\ | | a^Ta \cdot b^Tb &\geq |a^Tb|^2 \\ |
− | (n-1) \cdot \sum\limits_{i=1}^{n-1}\delta(i)^2 &\geq |\sum\limits_{i=1}^{n-1}\delta(i)|^2 | + | (n-1) \cdot \sum\limits_{i=1}^{n-1}\delta(i)^2 &\geq |\sum\limits_{i=1}^{n-1}\delta(i)|^2 \\ |
| + | (n-1)\sum\limits_{i=1}^{n-1}(x(i+1) - x(i))^2 &\geq |x(1)-x(n)|^2 \\ |
| + | &\geq (x(1)-x(n))^2 |
| \end{align} | | \end{align} |
| </math> | | </math> |
| + | ตามต้องการ |
| {{จบบทพิสูจน์}} | | {{จบบทพิสูจน์}} |
| | | |
แถว 65: |
แถว 64: |
| 1.<math>\lambda_2(P_n) = O(\frac{1}{n^2})</math> | | 1.<math>\lambda_2(P_n) = O(\frac{1}{n^2})</math> |
| {{เริ่มบทพิสูจน์}} | | {{เริ่มบทพิสูจน์}} |
− | To be proved...
| + | สร้างเวคเตอร์ x โดยให้ <math>x(i) = (n+1) - 2i</math> จะเห็นว่า x ตั้งฉากกับ <math>\bar{1}</math> |
| + | |
| + | คำนวณ <math>\frac{\sum\limits_{i=1}^{n}(x(i+1)-x(i))^2}{\sum\limits_{i=1}^{n}(x(i)^2}</math> |
| + | |
| + | จาก Courant–Fischer Theorem จะเห็นว่า <math>\lambda_2 = O(\frac{1}{n^2})</math> |
| + | |
| {{จบบทพิสูจน์}} | | {{จบบทพิสูจน์}} |
| 2.<math>\lambda_2(P_n) = \Omega(\frac{1}{n^2})</math> | | 2.<math>\lambda_2(P_n) = \Omega(\frac{1}{n^2})</math> |
| {{เริ่มบทพิสูจน์}} | | {{เริ่มบทพิสูจน์}} |
− | To be proved...
| + | หาค่าคงที่ c ที่ |
| + | |
| + | <math>c \cdot P_n \succeq K_n </math> และเรารู้ว่า <math>K_n = \sum\limits_{i,j} G_{i,j}</math> |
| + | |
| + | จึงได้ว่า |
| + | :<math> |
| + | \begin{align} |
| + | \sum\limits_{i>j}(i-j)P_n &\succeq K_n \\ |
| + | \frac{n(n+1)(n-1)}{6}P_n &\succeq K_n \\ |
| + | \therefore \Omega(\frac{1}{n^2}) &\leq \lambda_2(P_2) \\ |
| + | \end{align} |
| + | </math> |
| + | |
| + | <math>\lambda_2(P_n) = \Omega(\frac{1}{n^2})</math> |
| {{จบบทพิสูจน์}} | | {{จบบทพิสูจน์}} |
| | | |
แถว 77: |
แถว 94: |
| | | |
| :<math>\Omega(\frac{1}{n\cdot log(n)} \leq \lambda_2(T_d) \leq \frac{2}{n-1})</math> | | :<math>\Omega(\frac{1}{n\cdot log(n)} \leq \lambda_2(T_d) \leq \frac{2}{n-1})</math> |
− | {{เริ่มบทพิสูจน์}}
| + | โดยการใช้วิธีเดียวกับการพิสูจน์ด้านบน โดยสร้างเวคเตอร์ x ที่ x(root) = 0 และลูกฝั่งซ้ายทั้งหมดเป็น 1 ฝั่งขวาทั้งหมดเป็น -1 |
− | To be proved...
| |
− | {{จบบทพิสูจน์}}
| |
รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 10:27, 2 เมษายน 2558
Spectral Graph Theory
|
- บทนำและทบทวนพีชคณิตเชิงเส้น (ณัฐวุฒิ)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ต่อกราฟ (ธานี,ณัฐวุฒิ)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ต่อกราฟ[2] (ภัทร)
- คุณสมบัติของ Eigenvalue ลำดับที่สองบนกราฟต่างๆ (ธานี)
- Cheeger Inequality (ศุภชวาล)
- การทดลอง Cheeger Inequality และ Effective Resistance (ธานี)
- Random Walks และ Psuedo Random Generator (ศุภชวาล)
- Psuedo Random Generator[2] (ภัทร)
- Coding Theory และ Expander code (ธานี)
- Expander graph from Linear coding (ภัทร)
- Chebyshev polynomial (ศุภชวาล)
- Preconditioning (ธานี)
|
แก้ไขกล่องนี้ • แก้ไขสารบัญ
|
บันทึกคำบรรยายวิชา Spectral graph theory นี้ เป็นบันทึกที่นิสิตเขียนขึ้น เนื้อหาโดยมากยังไม่ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด การนำไปใช้ควรระมัดระวัง
ในสัปดาห์นี้ เราได้พูดถึง Courant–Fischer Theorem
Courant–Fischer Theorem
ให้ A เป็น symmetric matrix ขนาด n ที่มี eigen value (สังเกตว่าเรียงสลับด้านกับ ในเลคเชอร์อื่นๆ)
เราจะได้ว่า
Graphic Inequality
เป็นการเปรียบเทียบกราฟโดยให้ sense ของการ "มากกว่า" "น้อยกว่า" เหมือนการเปรียบเทียบจำนวนจริง
ให้ A เป็น matrix ใดๆ เราเขียนแทนว่า A เป็น positive semi-definite ด้วย โดยนิยามดังนี้
และสำหรับ matrix A,B ใดๆ เราเขียน แทน โดยความสัมพันธ์นี้มีคุณสมบัติถ่ายทอด คือ
ทำนองเดียวกัน สำหรับกราฟ G,H ใดๆ เราเขียน แทน
สังเกตว่า ถ้า H เป็น subgraph ของ G จะได้ว่า
และสำหรับจำนวนจริง c ใดๆเราเขียนแทน หมายถึง
จากนิยามข้างต้น เราจะได้คุณสมบัติว่า (ในเนื้อหาครั้งนี้ไม่มีการพิสูจน์ทฤษฎีบทนี้)
Path Inequality
ให้กราฟขนาด n โหนด แทนกราฟที่มีเส้นเชื่อมเดียว (1,n) และกราฟที่มีเส้นเชื่อม n-1 เส้น ตามลำดับ
พิจารณา vector x ขนาด n ใดๆ เราต้องการจะแสดงว่า
ให้ และนิยาม vector ขนาด n-1 เพิ่มดังนี้ และ
จากCauchy–Schwarz inequality ได้ว่า
ตามต้องการ
และเราจะแสดงให้เห็นว่า โดยประกอบด้วยสองขั้นตอน
1.
สร้างเวคเตอร์ x โดยให้ จะเห็นว่า x ตั้งฉากกับ
คำนวณ
จาก Courant–Fischer Theorem จะเห็นว่า
2.
หาค่าคงที่ c ที่
และเรารู้ว่า
จึงได้ว่า
และสำหรับ Complete binary tree ที่มีความลึก d แทนด้วย เราจะได้ว่า
โดยการใช้วิธีเดียวกับการพิสูจน์ด้านบน โดยสร้างเวคเตอร์ x ที่ x(root) = 0 และลูกฝั่งซ้ายทั้งหมดเป็น 1 ฝั่งขวาทั้งหมดเป็น -1